TOMAS Engineering Co., Ltd. |
TOMAS Engineering Co., Ltd. บริษัทวิศวกรสำหรับวงการอุตสาหกรรม ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ที่ไม่เคยประสบมาก่อน ในช่วงแรกหลังก่อตั้งบริษัท TOMAS Engineering เป็นบริษัทเทรดดิ้งขายอุปกรณ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อาทิเช่น เครื่องจักร ภายหลังได้เติบโตเป็นบริษัทให้บริการด้านวิศวกรครบวงจร ในปี 2021 ที่บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ก็ได้รับช่วงต่อกิจการมาจาก THAI TAIYO TENT Co., Ltd. บริษัทลูกของบริษัท TAIYO KOGYO และเริ่มดำเนินกิจการเต็นท์สำหรับโรงงานอุตสากรรมอย่างเต็มรูปนี้ที่มีจำนวนน้อยในไทย ทำให้ขอบเขตธุรกิจของบริษัทเพิ่มขึ้นในคราวเดียว ตลาดโลจิสติกส์หลังฟื้นตัวจากไวรัสโควิด 19 เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก บริษัทจึงเพิ่มกำลังคนเพื่อรองรับตลาดโลจิสติกส์ที่กำลังเติบโต และท้าทายกับวงการโลจิสติกส์ของไทยด้วยเต็นท์คุณภาพสูงมาตรฐานญี่ปุ่น
ผ่านมา 2 ปีหลังรับช่วงต่อกิจการเต็นท์จาก TAIYO KOGYO
TOMAS ยุคสมัยใหม่หัวใจสำคัญในการท้าทายกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลจิสติกส์ |
“TAIYO TENT” ที่บริษัท TAIYO KOGYO ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกกลางแจ้งสำหรับปกป้องผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของลูกค้าจากสภาพแวดล้อมอันไม่พึงประสงค์กลางแจ้งจำพวกฝนกรด รังสีอัลตราไวโอเลต ด้วยโครงสร้างเต็นท์ที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราวทางโลจิสติกส์ โดยการใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่าย และใช้เวลาก่อสร้างน้อยอีกด้วย
ในทางกลับกัน เต็นท์ราคาถูกจำพวกเต็นท์ในประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งเน้นราคาเป็นหลักมักจะไม่ทนทาน, เมื่อมีลมแรงผ้าใบเต็นท์จะฉีกขาดและโครงเต็นท์อาจจะงอได้ ในตลาดที่มีทั้งเต็นท์คุณภาพดีและไม่ดีปะปนกันเช่นนี้ โดยเฉพาะในไทยนั้นเต็นท์คุณภาพสูงยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก
บริษัท TOMAS ที่รับช่วงต่อกิจการเต็นท์มาจึงต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตลาดดังที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งแรกที่บริษัทลงมือทำคือบริการหลังการขายลูกค้าเดิม 200 บริษัทที่รับมาดูแลต่อ หลังจากรับช่วงต่อกิจการมาตลาดของเต็นท์ก็หยุดชะงักจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด 19 ในระหว่างนั้นบริษัท TOMAS จึงได้สร้างระบบองค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่การปฏิรูปภายในด้วยการเพิ่มศักยภาพด้านการออกแบบและความรู้ด้านวิศวกรรมก่อสร้าง และฝึกอบรมพนักงาน ในตอนนี้บริษัท TOMAS กำลังท้าทายกับการบุกตลาดหลังหมดช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ด้วยรากฐานที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัท
บริษัท TOMAS ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับบริษัท Neo Max 2021 (Thailand) Co., Ltd. บริษัทพันธมิตรที่รับช่วงโรงงานผลิตผ้าใบของ TAIYO KOGYO ที่ตั้งอยู่ที่อยุธยา และยังติดต่อกับคุณชีว วิเศษสรรค์ ประธานบริษัท Neo ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตผ้าใบเต็นท์ผลงานของบริษัท TOMAS อยู่เป็นประจำ
นอกจากนี้บริษัทผลิตโครงเหล็กเต็นท์ในไทยก็ยังให้ความร่วมมือในการส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงให้อีกด้วย
เจาะตลาดด้วยการถึงลูกค้าเป็นวงกว้าง |
เปลี่ยนถ่ายจาก TAIYO TENT ไปสู่ TOMAS TENT |
การรับประกันเต็นท์เองก็เพิ่มจาก 5 ปีเป็น 8 ปี ช่วยเพิ่มความไว้วางใจให้ลูกค้ามากขึ้น และสำหรับลูกค้าที่เป็นบริษัทในไทยที่กังวลเรื่องเงินลงทุนช่วงแรก บริษัท TOMAS ก็มีระบบเต็นท์ให้เช่าที่สามารถคุมค่าใช้จ่ายให้เท่ากันทุกเดือนได้ ระบบของบริษัท TOMAS สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ
ประธานโนซากิชอบคำว่า "เรียนรู้จากสถานที่ทำงานและนำเสนอการปรับปรุงที่มีที่มาจากสถานที่ทำงาน" และยังนำคำนี้มาเป็นคำขวัญของบริษัทด้วย กระบวนการเรียนรู้และการปรับปรุงที่ทำอย่างสม่ำเสมอจะต่อยอดไปยังผลการทำงานได้ในที่สุด สิ่งนี้จะเชื่อมโยงไปถึงระดับความมีชื่อเสียงและระดับการเป็นที่รู้จักของบริษัทได้ด้วย เปลี่ยนถ่ายจาก TAIYO TENT ไปสู่ TOMAS TENT พร้อมกับการสั่งสมชื่อเสียง แม้จะยังรักษาคุณภาพไว้คงเดิม แต่ก็ยังกระตือรือร้นที่จะให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงการบริการและความตั้งใจจริงที่น่าไว้วางใจ
|
Tomas Engineering เราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการได้หลากหลายและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในวงการโลจิสติกส์ของประเทศไทย |
ในปี 2021 ช่วงไวรัส COVID-19 แพร่ระบาด「TOMAS Engineering (Thailand) Co., Ltd.」บริษัท FA Engineering สำหรับวงการอุตสาหกรรมการผลิต ได้รับช่วงต่อกิจการเต็นท์มาอย่างเต็มรูปแบบจากบริษัท 「THAI TAIYO TENT Co., Ltd.」ที่มีบริษัท TAIYO KOGYO เป็นบริษัทแม่อยู่ที่จังหวัดโอซาก้าในประเทศญี่ปุ่น เต็นท์คุณภาพสูงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมของ บริษัท TAIYO KOGYO นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากนั้นตลาดทั่วทั้งโลกหยุดชะงักลง บริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าและฝึกอบรมพัฒนาฝีมือพนักงาน ปัจจุบันโครงสร้างองค์กรของบริษัทดีขึ้น และพร้อมที่จะบุกตลาด
หลังสถานการณ์ COVID-19 |
แคตตาล็อกสินค้าที่แนบมากับบทความนี้เป็นแคตตาล็อกสินค้าเต็นท์สำหรับโรงงานที่บริษัท TAIYO KOGYO จัดทำขึ้นในปี 2004 และแจกจ่ายในประเทศญี่ปุ่น แคตตาล็อกมีทั้งหมด 28 หน้าที่เริ่มต้นด้วยวลี "เราท้าทายกับการเพิ่มประสิทธิภาพ และฟังก์ชั่นการทำงาน
ในโลกอุตสาหกรรม เราคือผู้ครอบครองโลกอุตสาหกรรม" บรรยายเรื่องราวการขายที่ได้สลายหายไปในญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นกำลังถูกนำกลับมาเล่าใหม่อย่างสดใสในสายตาของประธานโนซากิผู้รับช่วงต่อธุรกิจเต็นท์ในประเทศไทย
วงการอุตสาหกรรมทุกที่หยุดชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 วงการโลจิสติกส์ในประเทศไทยเองกำลังฟื้นตัวจากต่ำสุดนั้นเช่นกัน ความต้องการในการจัดส่งสินค้าถึงบ้านได้แพร่หลายและกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนทั่วไปและในกิจกรรมของบริษัท และยังเริ่มใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานที่กระจายอยู่ทุกที่ ด้วยการใช้เป็นที่จัดเก็บสินค้าในยามฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้บ้างด้วย ประธานโนซากิย้ำด้วยความมั่นใจด้วยว่า "อุปสงค์ที่ลดลงและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หากอ่านสิ่งเหล่านี้ให้ออกโอกาสทางธุรกิจจะตามมาอย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ยังชี้แจงด้วยว่าแนวคิดในการออกแบบและการขายเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านนี้ได้รับการถ่ายทอดไว้ในแคตตาล็อกเวอร์ชั่นปี 2004 ในปลายทศวรรษ 1990 เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตต้มยำกุ้ง สิ่งที่วงการอุตสาหกรรมต้องการในขณะที่ปัญหาการมีลูกน้อยและมีผู้สูงอายุมากขึ้นก็ยังดำเนินอยู่ก็คือการประหยัดพลังงานและการเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติที่มากยิ่งขึ้นแม้จะใช้งานได้ถาวร แต่หากพิจารณาในด้านค่าใช้จ่ายแล้วกลับไม่สมเหตุสมผล เต็นท์อุตสาหกรรมชั่วคราวเป็นทางออกของปัญหา
การสร้างอาคารที่ใช้งานได้ถาวร แต่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเต็นท์อุตสาหกรรมนี้เป็นผลมาจากความคิดและองค์ความรู้ที่มุ่งหวังจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและลดความสูญเปล่า ผ่านการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพในประเทศญี่ปุ่นบางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนตกต่อปีสูงเกิน 2,000 มิลลิเมตร และตัวเต็นท์จะต้องได้รับการป้องกันจากฤดูฝนที่ยาวนาน,
พายุที่อาจสร้างความเสียหาย และหิมะด้วย ในแคตตาล็อกอธิบายลักษณะเด่นที่สามารถรองรับสภาพแวดล้อมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความทนทาน, ประสิทธิภาพในการกันความร้อน และรักษาแสงสว่างในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีเต็นท์ขนาดใหญ่ที่ไม่มีเสาภายใน, เต็นท์ที่สามารถขยายและหดตัวได้ตามการใช้งาน ประธานโนซากินำเสนอแนวคิดในการออกแบบของญี่ปุ่นสมัยนั้นที่พยายามจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าหลากหลายรูปแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดและการออกแบบ มาเทียบกับ "สถานการณ์ปัจจุบัน" ของตลาดไทย
ประเทศไทยต้องมีมาตรการและการพิจารณาถึงวิธีรับมือกับลักษณะเฉพาะของประเทศในเขตร้อน เช่นการเสื่อมสภาพอันเนื่องมาจากรังสีอัลตราไวโอเลต ระบบอัตโนมัติเป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากค่าแรงคนงานที่เพิ่มมากขึ้น ในทางกลับกัน ทุกบริษัทกลับมุ่งเน้นสินค้า ที่มีคุณภาพสูงและราคาสูง แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะสามารถแบกรับต้นทุนการลงทุนเริ่มต้นที่มีมูลค่าสูงได้ สิ่งที่สามารถบอกได้เพียงอย่างเดียวคือตลาดยังคงเจริญเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าแคตตาล็อกของญี่ปุ่นปี 2004 ได้ทำนายอนาคตของไทยใน 20 ปีข้างหน้าไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ประธานโนซากิประหลาดใจ และยังรู้สึกว่าได้ทำสำเร็จอีกด้วย
บริษัท TOMAS เดิมทีเริ่มต้นจากการขายเครื่องมือเครื่องจักร ในภายหลังได้ก้าวไปข้าวหน้าโดยมีธุรกิจทางด้านวิศวกรรมเป็นแกนหลัก ประธานโนซากิเสริมว่า "แต่ถึงอย่างนั้นเรายังเป็นได้เพียงเครื่องบินที่บินอยู่ในระดับต่ำ" ในตอนนั้นเองที่มีข้อเสนอให้รับช่วงต่อธุรกิจเต็นท์สำหรับอุตสาหกรรม ผมรู้สึกได้ในทันทีว่า "ถ้านำเครื่องยนต์นี้มาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เราจะเกาะกระแสลมและบินขึ้นไปได้สูง"
หลังรับช่วงต่อกิจการเต็นท์ บริษัท TOMAS ได้เปลี่ยนจากระบบผลิตเต็นท์ตามคำสั่งซื้อ เป็นเต็นท์แสตนดาร์ด นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสนใจจากลูกค้า และร่นระยะเวลาที่ใช้จนกว่าจะนำเข้าเต็นท์ลง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกหลากหลาย เช่น ระบบเช่าเต็นท์เพื่อลดการลงทุนเริ่มต้น และยังขยายระยะเวลารับประกันจาก 5 ปีเป็น 8 ปีได้ด้วย บริษัท TOMAS มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการลงทุนจากทุนในประเทศไทยผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
วัตถุดิบผ้าใบเต็นท์เป็นผ้าใบดั้งเดิมของ TAIYO KOGYO ที่รับช่วงต่อมา และนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นร่วมกันกับ บริษัท Neo Max 2021 (Thailand) Co., Ltd. บริษัทพันธมิตรที่รับช่วงโรงงานผลิตผ้าใบเต็นท์ในจังหวัดอยุธยามาจาก TAIYO KOGYO
ให้ช่วยผลิตผ้าใบเต็นท์ให้ ในอนาคตนอกจากความตั้งใจที่จะสร้างช่องการการจัดหาวัตถุดิบที่หลากหลายตามความจต้องการของลูกค้าแล้ว ยังตั้งใจจะขยายฐานการผลิตอีกด้วย สิ่งที่บริษัท TOMAS อยากจะบอกตลาดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ TAIYO TENT เปลี่ยนถ่ายมาเป็น TOMAS Brand ทั้งยังรองรับตั้งแต่ออกแบบ, ก่อสร้าง ไปจนถึงบริการหลังการขาย บริษัทมุ่งมั่นในการเสริมสร้าง และฝึกอบรมบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านนี้ ในอนาคตอันใกล้บริษัท TOMAS จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่มั่น ในการเจาะตลาด ASEAN ประเทศใกล้เคียง…… ความท้าทายของบริษัท TOMAS ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
|